สวนปาล์มโวยโรงสกัด กดรับซื้อเหลือเกรด 16% ทุบราคาร่วง ทำผลผลิตหาย 4 หมื่นตัน

ฐานเศรษฐกิจ
18 ก.ค. 2567 | 12:54 น

ชาวสวนโวยโรงสกัด กดราคารับซื้อปาล์มเหลือเกรดให้น้ำมัน 16% ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ส่งผลราคาบิดเบือนเหลือแค่ 4.50- 5 บาท/กก. มองตาปริบราคารับซื้อผลปาล์มในมาเลเซีย 7 บาทต่อ กก. วงการค้าห่วงสต๊อกท่วม ทุบซ้ำรอบสอง เร่งพาณิชย์ ชง ครม.ช่วย 2 บาทต่อกิโลฯ หนุนส่งออก ป้องราคาตก
เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ราคาผลปาล์มนํ้ามันตกตํ่า บางพื้นที่ 3 บาท/กิโลกรัม (กก.) มีปัจจัยสำคัญจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าที่คาดการณ์ และผลผลิตมีคุณภาพลดลง จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลปาล์มสุกแดด ไม่ได้สุกธรรมชาติ ส่งผลเปอร์เซ็นต์การให้นํ้ามันลดลง และโรงสกัดนํ้ามันปาล์มได้รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรตามเปอร์เซ็นต์นํ้ามันที่ลดลงตามมา กระทบชาวสวนปาล์มได้รับความเดือดร้อน

รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหา โดยคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุล นํ้ามันปาล์ม ที่มีอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน มีมติให้โรงงานสกัดนํ้ามันปาล์มรับซื้อปาล์มจากเกษตรกร ณ หน้าโรงงานไม่ตํ่ากว่า 4.50 บาท และ 4.80 บาทต่อ กก.ตามลำดับ อีกด้านรัฐบาลให้ผู้ค้านํ้ามันมาตรา 7 ซื้อนํ้ามันไบโอดีเซล (B100) จากผู้ผลิตตามราคาประกาศของสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงานเท่านั้น โดยไม่มีการขอส่วนลดพิเศษจากผู้ผลิตนํ้ามัน B100

นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงราคาผลปาล์ม ณ วันที่ 15 กรกฎาคม อยู่ที่ 4.50- 5 บาท ต่อกก. ตามเปอร์เซ็นต์นํ้ามันปาล์มอยู่ที่ 16% จากที่มีโรงสกัดปาล์มนํ้ามันในภาคใต้ได้รายงานผ่านกระทรวงพาณิชย์ว่า มีหลายจังหวัดที่เกษตรกรตัดปาล์มมาขายมีเปอร์เซ็นต์นํ้ามันแค่ 14-15% และมีไม่กี่รายที่ได้ถึง 18% ตามมาตรฐาน ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหากย้อนกลับไปถือเป็นเปอร์เซ็นต์นํ้ามันที่ตํ่าสุดในรอบ 12 ปี จากในช่วง 5 ปีล่าสุดไทยได้มีการพัฒนาปาล์มนํ้ามันที่มีคุณภาพเปอร์เซ็นต์นํ้ามันไปถึง 20-21% แล้ว ทำให้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดชนิดและคุณภาพวัตถุดิบในการผลิตของโรงงานสกัดนํ้ามันปาล์ม พ.ศ. 2562 จะต้องรับซื้อผลปาล์มเข้าโรงงานที่เปอร์เซ็นต์นํ้ามันไม่ตํ่ากว่า 18%

“ชาวสวนไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ เพราะเป็นการรายงานของกลุ่มโรงงาน ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมปาล์มนํ้ามันของไทยมีเปอร์เซ็นต์การให้นํ้ามันด้อยคุณภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับมาเลเซียที่อยู่ในโซนเดียวกับทางภาคใต้ของไทย ทำไมผลปาล์มมาเลเซีย มีเปอร์เซ็นต์นํ้ามันถึง 19-22% ทำให้ขายได้คิดเป็นเงินไทยถึง 7 บาทต่อกิโลกรัม เรื่องนี้รับไม่ได้จริง ๆ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะไม่ใช่ปัญหาราคาอย่างเดียว แต่จะมีผลต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมปาล์มนํ้ามันและนํ้ามันปาล์มของไทยในอนาคตด้วย”

ประมาณการสมดุลน้ำมันปาล์มเดือนกรกฎาคม 2567

นอกจากนี้ยังมีผลต่อการประเมินผลผลิตปาล์ม 2 ล้านตันทะลาย คิดเป็นอัตรานํ้ามันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) 16 % ประมาณ 3.2 แสนตัน มองว่าบิดเบือนข้อมูลหรือไม่ เพราะถ้าคิด 18% ตามกฎหมายกำหนด นํ้ามันปาล์มดิบคำนวณออกมาจะอยู่ที่ 3.6 แสนตัน หรือผลผลิตหายไป 4 หมื่นตัน จะบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดความสมดุลและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งเวลาถือว่ายังมีตัวช่วย จากเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ยังมีความสามารถในการแข่งขันส่งออกได้ต่อเนื่อง และยังไม่ต้องใช้โครงการบริหารจัดการสมดุลนํ้ามันปาล์ม ปี 2567 ที่รัฐบาลจะอุดหนุนส่งออก กก.ละ 2 บาท วงเงิน 206 ล้านบาท เป้าหมาย 1 แสนตัน โดยที่มีการปรับเงื่อนไขใหม่ เพื่อให้การบริหารจัดการมีความยืดหยุ่นและทันต่อเหตุการณ์ จากระดับสต๊อกนํ้ามันปาล์มดิบในประเทศ 3 แสนตัน เป็นขั้นตํ่า 2.5 แสนตัน ปัจจุบันเรื่องยังไม่เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
1 เดือนที่แล้ว
ราคาปาล์มใหม่วันนี้ 2567 ประกาศขึ้นราคา 4.80 บาท
1 เดือนที่แล้ว
ชงโมเดล “อินโดฯ-มาเลย์-สหรัฐ” เพิ่มใช้ B100 เร่งแตกไลน์อุตฯ แก้ปาล์มราคาตก
21 วันที่แล้ว
สมาคมไบโอดีเซลจ่อร้อง “ธรรมนัส” ฟันผู้ค้าน้ำมันเมินซื้อ B100
17 วันที่แล้ว
ผู้ผลิตไบโอดีเซลร้องรัฐบาลเอาผิดผู้ค้ามาตรา 7 ไม่รับซื้อปาล์มตามมติ ครม.
16 วันที่แล้ว
ครม.เห็นชอบ 6 แนวทางแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ จี้ซื้อบี100 ตามประกาศ

ด้านแหล่งข่าววงการค้านํ้ามันปาล์ม กล่าวถึงการส่งออก นํ้ามันปาล์มดิบของไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 1.2 แสนตัน ถือเป็นตัวช่วยทำให้สถานการณ์ราคาปาล์มไม่ผันผวนมากนัก ราคาตลาดต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแคบ ไม่เกินตันละ 4,000 ริงกิต(1 ริงกิตเท่ากับ 7.6 บาท) และค่าเงินบาทไทยค่อนข้างนิ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง ผลผลิตปาล์มนํ้ามันของไทยช่วงมิถุนายน 2567 อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านตัน และเดือนกรกฎาคมคาดผลผลิตมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ดีการซื้อขายไบโอดีเซล (B100) เป็นตัวเลขซื้อขายจริงของผู้ผลิตแต่ละรายซึ่งเป็นความลับทางการค้า และส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด หากมีการกำหนดซื้อนํ้ามันไบโอดีเซลตามราคาอ้างอิงที่ สนพ.กำหนด จะทำให้เกิดความสับสนในทางปฏิบัติ ประกอบกับเป็นช่วงที่ผู้ผลิตหลายรายมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไปจนถึงสิ้นปีแล้ว หากจะต้องมีการตกลงทำสัญญาใหม่ อาจจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการบางรายในอุตสาหกรรม และการใช้นํ้ามันดีเซลตั้งแต่วันนี้ไปถึงกันยายนจะลดลง จากเข้าช่วงฤดูฝนและจะเริ่มปรับสูงขึ้นตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,010 วันที่ 18-20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567